วันอังคารที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2552

Goodbye Santika Club ไฟไหม้ซานติก้าผับ

Goodbye Santika Club ไฟไหม้ซานติก้าผับ


Goodbye Santika Club ไฟไหม้ซานติก้าผับ

Goodbye Santika Club ไฟไหม้ซานติก้าผับ


วิธีเอาตัวรอดจากไฟไหม้

หนีไฟ
          ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเหตุเพลิงไหม้ซานติก้า ผับ ย่านเอกมัย เขตวัฒนาในคืนส่งท้ายปีเก่าเป็นโศกนาฏกรรมที่นำมาซึ่งความเศร้าสลดใจไปทั่ว โลก และเป็นอุทาหรณ์ที่สำคัญให้กับหน่วยงานเกี่ยวข้อง ประชาชนทุกคน รวมถึงผู้ประกอบการทุกราย เกี่ยวกับการเตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับสถานการณ์ไฟไหม้ที่อาจเกิดขึ้นได้ ตลอดเวลา  

         
รู้ หรือไม่ว่า ควันไฟจากเหตุการณ์เพลิงไหม้นั้น สามารถคร่าชิวิตคุณได้ เพราะภายในเวลา 1 วินาที ควันไฟสามารถลอยสูงขึ้นไปได้ถึง 3 เมตร และภายใน 1 นาที ควันไฟสามารถลอยขึ้นไปได้สูงเท่ากับตึก 60 ชั้น ดังนั้น ทันทีที่เกิดเพลิงไหม้ ควันไฟจะปกคลุมอยู่รอบๆ ตัวคุณอย่างรวดเร็ว ทำให้คุณสำลักควันไฟตายก่อนที่เปลวเพลิงจะคืบคลานมาถึงตัว  จะเห็นได้จากสาเหตุการเสียชีวิตส่วนใหญ่ของเหยื่อซานติก้ามาจากการสำลักควัน ไฟเนื่องจากหนีออกจากร้านไม่ทัน เบียดเสียดแย่งกันออกทางประตูจนถึงขั้นหกล้มและเหยียบกันตาย ดังนั้น เราจึงควรเรียนรู้วิธีการปฏิบัติตัวเมื่อเกิดเพลิงไหม้ เพื่อความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของตัวคุณเอง

          

เกี่ยว กับเรื่องนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยได้ให้ข้อแนะนำว่า การออกไปอยู่ในอาคารปิดทึบ ไม่ว่าจะเป็นผับ บาร์ หรือห้างสรรพสินค้า สิ่งที่พึงกระทำเป็นอันดับต้นๆ คือการมองหาทางหนีไว้อย่างน้อย 2 ทาง เช่น สังเกตตำแหน่งบันไดหลักและบันไดหนีไฟ ประตู หน้าต่าง เส้นทางหนีไฟ และทางออกจากตัวอาคาร และจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า ทางออกนั้นไม่ได้ปิดล็อกหรือมีสิ่งกีดขวาง สามารถใช้ได้อย่างปลอดภัยจริง

         
นอก จากนี้ ต้องสังเกตอุปกรณ์ช่วยชีวิตและอุปกรณ์เตือนภัยว่ามีอยู่หรือไม่ เป็นแบบใด อยู่ที่ไหน จำนวนและใช้อย่างไร ได้แก่ เครื่องดักจับควัน (Smoke Detectors) เครื่องดักจับความร้อน (Heat Detectors) อุปกรณ์ดับเพลิงอัตโนมัติ (Sprinkler) อุปกรณ์แจ้งเหตุฉุกเฉิน (Fire/Emergency Alarm) และเครื่องดับเพลิง (Fire Extinguisher)

วิธีการช่วยเหลือตนเองเบื้องต้น เมื่อประสบเหตุเพลิงไหม้

         
1. ต้องควบคุมสติให้ได้ อย่าตื่นกลัวจนทำอะไรไม่ถูก แล้วเปิดสัญญาณเตือนเพลิงไหม้(ถ้ามี) และหากได้ยินสัญญาณเตือนไฟไหม้ ให้รีบออกจากตัวอาคารทันที อย่าเสียเวลาตรวจสอบว่าเพลิงไหม้ที่ใด 

         

2. หากเพลิงมีขนาดเล็ก พอที่จะดับเองได้ ให้ใช้ถังดับเพลิง เพื่อดับไฟ หากไม่มีอุปกรณ์ หรือไม่สามารถดับเพลิงเองได้ ให้รีบแจ้งตำรวจดับเพลิง โทร. 199  จากนั้นรีบออกจากตัวอาคารทันที และปิดประตู-หน้าต่างห้องที่เกิดเพลิงไหม้ให้สนิทที่สุดทันที (ถ้าทำได้) เพื่อให้เกิดภาวะอับอากาศ วิธีนี้จะช่วยให้เพลิงไหม้ช้าลง ทำให้ง่ายต่อการดับเพลิง แต่ต้องแน่ใจว่าไม่มีใครติดอยู่ข้างใน แล้วรีบวิ่งหนีออกมา

         

3. หากอยู่ในอาคารที่มีเพลิงไหม้ ก่อนจะเปิดประตูต้องแตะลูกบิดก่อน โดยนั่งชันเข่าให้มั่นคงหลังประตู แล้วใช้หลังมือแตะที่ลูกบิดประตู ถ้ามีความร้อนสูงแสดงว่ามีเพลิงไหม้อยู่ในห้อง หรือบริเวณใกล้ๆ ดังนั้น อย่าเปิดประตูโดยเด็ดขาด  แต่หากลูกบิดไม่ร้อน ให้ค่อยๆ บิดออกช้าๆ โดยใช้ไหล่คอยหนุนประตูไว้ หากทำได้ควรหาผ้าชุบน้ำปิดจมูก หรือผ้าห่มชุบน้ำชุ่มๆ ไว้ด้วย

         

4. หากต้องเผชิญกับควันไฟที่ปกคลุม ให้ใช้วิธีคลานต่ำๆ และหนีไปยังทางออกฉุกเฉิน เพราะอากาศที่พอหายใจได้จะอยู่ด้านล่างเหนือพื้นห้องไม่เกิน 1 ฟุต เนื่องจากผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บในเหตุเพลิงไหม้ประมาณร้อยละ 90 เป็นผลมาจากสำลักควันไฟ เพราะมีทั้งก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์และไอร้อน ทำให้ขาดออกซิเจน ควรเตรียมหน้ากากหนีไฟฉุกเฉิน (Emergency smoke mask) ไว้จะปลอดภัยกว่า หรืออาจใช้ถุงพลาสติกใสขนาดใหญ่ตักอากาศ แล้วคลุมศีรษะหนีฝ่าควันออกมา เพราะการคลานต่ำจะไม่สามารถทำได้จากชั้นบนลงชั้นล่างที่มีควัน

         

5. อย่าใช้ลิฟต์และบันไดเลื่อนขณะเกิดเพลิงไหม้ เพราะอุปกรณ์เหล่านี้จะหยุดการทำงานเนื่องจากไม่มีกระแสไฟฟ้า ให้ใช้บันไดหนีไฟเท่านั้น

         

6. หากติดอยู่ในวงล้อมของไฟ ให้โทรศัพท์แจ้งหน่วยดับเพลิงว่าท่านอยู่ที่ตำแหน่งใดของเพลิงไหม้ แล้วหาทางช่วยเหลือตัวเองโดยปิดประตูให้สนิท หาผ้าหนาๆ ชุบน้ำอุดตามช่องที่ควันเข้าได้ เช่น ใต้ประตูหรือช่องลมต่างๆ ปิดพัดลมและเครื่องปรับอากาศ แล้วเปิดหน้าต่างส่งสัญญาณด้วยการใช้ไฟฉายหรือผ้าโบก และตะโกนขอความช่วยเหลือ ทั้งนี้ เพื่อให้คนนอกอาคารรู้ตำแหน่งที่แน่นอน

         

7. หากมีไฟลามติดตัว อย่าเพิ่งวิ่ง เพราะยิ่งวิ่ง… ไฟจะยิ่งลุกลาม ให้หยุดนิ่ง และล้มตัวลงนอนกับพื้นทันที หลังจากนั้นให้ใช้มือปิดหน้า กลิ้งตัวทับเสื้อผ้าที่ติดไฟจนดับ

         

8. อถ้าหนีออกมาได้แล้ว ไม่ควรกลับเข้าไปในอาคารอีก หากยังมีคนอื่นติดอยู่ภายในอาคาร ให้แจ้งเจ้าหน้าที่อับเพลิงทราบ เพื่อที่เจ้าหน้าที่จะได้เข้าไปช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่

การปฐมพยาบาลผู้บาดเจ็บจากไฟไหม้เบื้องต้น

           
1. ใช้น้ำสะอาด ราด รด หรือแช่ผู้บาดเจ็บจากไฟลวก เพื่อลดความเจ็บปวดของบาดแผล หยุดการทำลายจากความร้อน

           2. หากผู้บาดเจ็บสวมแหวน นาฬิกา กำไล ให้รีบถอดออก เพราะไม่นานบริเวณที่ถูกความร้อนจะเกิดอาการบวม

          3. ปิดแผลด้วยผ้าปิดแผล ถ้าหาไม่ได้ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้า ปลอกหมอนหรือผ้าปูที่นอนพันบาดแผลไว้ และรีบนำส่งโรงพยาบาล

สิ่งที่ต้องเตรียมไว้ล่วงหน้า

          1. บันไดหนีไฟ เป็นสิ่งจำเป็นที่สุด เมื่อเกิดเพลิงไหม้จะช่วยให้เราออกจากสถานที่เกิดเหตุได้ พวกอาคารสูงๆ นั้นก็ต้องมีบันไดหนีไฟไว้ด้วย แต่ถ้ามีบันไดแล้วใช้ไม่เป็นก็ไม่ดีแน่ค่ะ นี่คือข้อแนะนำในการใช้บันไดหนีไฟค่ะ
          - ควรมีการตรวจสอบสภาพของบันไดหนีไฟให้พร้อมใช้งานได้อยู่ตลอดเวลา
          - ควรซักซ้อมความเข้าใจในการใช้บันไดหนีไฟ
          - หากมีลูกกรงเหล็กดัด ต้องทำกลอนประตูที่เปิดออกได้ง่าย ไม่ควรคล้องกุญแจเด็ดขาด

          2. อุปกรณ์ดับเพลิง ควรมีไว้ประจำบ้าน ประจำชั้นต่างๆ ของตึก และต้องเรียนรู้การใช้เครื่องดับเพลิงด้วย

          3. วัตถุไวไฟ ควรเก็บให้มิดชิด หากไม่จำเป็นจริงๆ ควรเก็บไว้นอกที่พักจะดีกว่าค่ะ

          4. อุปกรณ์ไฟฟ้า ต้องรักษาให้อยู่ในสภาพดี ควรมีการตรวจสอบอยู่เสมอ หากพบว่าชำรุดต้องรีบแก้ไข ซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่ทันทีเพื่อป้องกันการเกิดไฟฟ้ารั่ว ซึ่งเป็นต้นเหตุของเพลิงไหม้

          5. อย่าใช้ลิฟท์ขณะเกิดเพลิงไหม้ เพราะลิฟท์จะเป็นช่องทางให้ควัน ความร้อนและเปลวไฟผ่าน และยิ่งถ้ากระแสไฟถูกตัดขาด รับรองว่าติดอยู่ในลิฟท์ตายแน่นอน

          6. อย่าหวงข้าวของต่างๆ อย่าคิดว่ามีเวลาเหลือพอที่จะกอบโกยข้าวของออกมา ควรรีบหนีไฟออกมาก่อนดีกว่า เงินทองของนอกกาย ไม่ตายก็หาเอาใหม่ได้ 

          โบราณว่า โจรปล้น 7 ครั้ง เสียหายน้อยกว่าไฟไหม้ครั้งเดียว…หวัง ว่าข้อแนะนำต่างๆ เหล่านี้ คงเป็นประโยชน์กับทุกคนนะคะ อย่างไรก็ตาม หากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น อย่าลืมว่าสิ่งสำคัญคือการมีสติเท่านั้นที่จะช่วยให้เรารอดชีวิตได้

ขอขอบคุณข้อมูลจาก 
  , 

วิธีเอาตัวรอดจากไฟไหม้

หนีไฟ
          ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเหตุเพลิงไหม้ซานติก้า ผับ ย่านเอกมัย เขตวัฒนาในคืนส่งท้ายปีเก่าเป็นโศกนาฏกรรมที่นำมาซึ่งความเศร้าสลดใจไปทั่ว โลก และเป็นอุทาหรณ์ที่สำคัญให้กับหน่วยงานเกี่ยวข้อง ประชาชนทุกคน รวมถึงผู้ประกอบการทุกราย เกี่ยวกับการเตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับสถานการณ์ไฟไหม้ที่อาจเกิดขึ้นได้ ตลอดเวลา  

         
รู้ หรือไม่ว่า ควันไฟจากเหตุการณ์เพลิงไหม้นั้น สามารถคร่าชิวิตคุณได้ เพราะภายในเวลา 1 วินาที ควันไฟสามารถลอยสูงขึ้นไปได้ถึง 3 เมตร และภายใน 1 นาที ควันไฟสามารถลอยขึ้นไปได้สูงเท่ากับตึก 60 ชั้น ดังนั้น ทันทีที่เกิดเพลิงไหม้ ควันไฟจะปกคลุมอยู่รอบๆ ตัวคุณอย่างรวดเร็ว ทำให้คุณสำลักควันไฟตายก่อนที่เปลวเพลิงจะคืบคลานมาถึงตัว  จะเห็นได้จากสาเหตุการเสียชีวิตส่วนใหญ่ของเหยื่อซานติก้ามาจากการสำลักควัน ไฟเนื่องจากหนีออกจากร้านไม่ทัน เบียดเสียดแย่งกันออกทางประตูจนถึงขั้นหกล้มและเหยียบกันตาย ดังนั้น เราจึงควรเรียนรู้วิธีการปฏิบัติตัวเมื่อเกิดเพลิงไหม้ เพื่อความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของตัวคุณเอง

          

เกี่ยว กับเรื่องนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยได้ให้ข้อแนะนำว่า การออกไปอยู่ในอาคารปิดทึบ ไม่ว่าจะเป็นผับ บาร์ หรือห้างสรรพสินค้า สิ่งที่พึงกระทำเป็นอันดับต้นๆ คือการมองหาทางหนีไว้อย่างน้อย 2 ทาง เช่น สังเกตตำแหน่งบันไดหลักและบันไดหนีไฟ ประตู หน้าต่าง เส้นทางหนีไฟ และทางออกจากตัวอาคาร และจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า ทางออกนั้นไม่ได้ปิดล็อกหรือมีสิ่งกีดขวาง สามารถใช้ได้อย่างปลอดภัยจริง

         
นอก จากนี้ ต้องสังเกตอุปกรณ์ช่วยชีวิตและอุปกรณ์เตือนภัยว่ามีอยู่หรือไม่ เป็นแบบใด อยู่ที่ไหน จำนวนและใช้อย่างไร ได้แก่ เครื่องดักจับควัน (Smoke Detectors) เครื่องดักจับความร้อน (Heat Detectors) อุปกรณ์ดับเพลิงอัตโนมัติ (Sprinkler) อุปกรณ์แจ้งเหตุฉุกเฉิน (Fire/Emergency Alarm) และเครื่องดับเพลิง (Fire Extinguisher)

วิธีการช่วยเหลือตนเองเบื้องต้น เมื่อประสบเหตุเพลิงไหม้

         
1. ต้องควบคุมสติให้ได้ อย่าตื่นกลัวจนทำอะไรไม่ถูก แล้วเปิดสัญญาณเตือนเพลิงไหม้(ถ้ามี) และหากได้ยินสัญญาณเตือนไฟไหม้ ให้รีบออกจากตัวอาคารทันที อย่าเสียเวลาตรวจสอบว่าเพลิงไหม้ที่ใด 

         

2. หากเพลิงมีขนาดเล็ก พอที่จะดับเองได้ ให้ใช้ถังดับเพลิง เพื่อดับไฟ หากไม่มีอุปกรณ์ หรือไม่สามารถดับเพลิงเองได้ ให้รีบแจ้งตำรวจดับเพลิง โทร. 199  จากนั้นรีบออกจากตัวอาคารทันที และปิดประตู-หน้าต่างห้องที่เกิดเพลิงไหม้ให้สนิทที่สุดทันที (ถ้าทำได้) เพื่อให้เกิดภาวะอับอากาศ วิธีนี้จะช่วยให้เพลิงไหม้ช้าลง ทำให้ง่ายต่อการดับเพลิง แต่ต้องแน่ใจว่าไม่มีใครติดอยู่ข้างใน แล้วรีบวิ่งหนีออกมา

         

3. หากอยู่ในอาคารที่มีเพลิงไหม้ ก่อนจะเปิดประตูต้องแตะลูกบิดก่อน โดยนั่งชันเข่าให้มั่นคงหลังประตู แล้วใช้หลังมือแตะที่ลูกบิดประตู ถ้ามีความร้อนสูงแสดงว่ามีเพลิงไหม้อยู่ในห้อง หรือบริเวณใกล้ๆ ดังนั้น อย่าเปิดประตูโดยเด็ดขาด  แต่หากลูกบิดไม่ร้อน ให้ค่อยๆ บิดออกช้าๆ โดยใช้ไหล่คอยหนุนประตูไว้ หากทำได้ควรหาผ้าชุบน้ำปิดจมูก หรือผ้าห่มชุบน้ำชุ่มๆ ไว้ด้วย

         

4. หากต้องเผชิญกับควันไฟที่ปกคลุม ให้ใช้วิธีคลานต่ำๆ และหนีไปยังทางออกฉุกเฉิน เพราะอากาศที่พอหายใจได้จะอยู่ด้านล่างเหนือพื้นห้องไม่เกิน 1 ฟุต เนื่องจากผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บในเหตุเพลิงไหม้ประมาณร้อยละ 90 เป็นผลมาจากสำลักควันไฟ เพราะมีทั้งก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์และไอร้อน ทำให้ขาดออกซิเจน ควรเตรียมหน้ากากหนีไฟฉุกเฉิน (Emergency smoke mask) ไว้จะปลอดภัยกว่า หรืออาจใช้ถุงพลาสติกใสขนาดใหญ่ตักอากาศ แล้วคลุมศีรษะหนีฝ่าควันออกมา เพราะการคลานต่ำจะไม่สามารถทำได้จากชั้นบนลงชั้นล่างที่มีควัน

         

5. อย่าใช้ลิฟต์และบันไดเลื่อนขณะเกิดเพลิงไหม้ เพราะอุปกรณ์เหล่านี้จะหยุดการทำงานเนื่องจากไม่มีกระแสไฟฟ้า ให้ใช้บันไดหนีไฟเท่านั้น

         

6. หากติดอยู่ในวงล้อมของไฟ ให้โทรศัพท์แจ้งหน่วยดับเพลิงว่าท่านอยู่ที่ตำแหน่งใดของเพลิงไหม้ แล้วหาทางช่วยเหลือตัวเองโดยปิดประตูให้สนิท หาผ้าหนาๆ ชุบน้ำอุดตามช่องที่ควันเข้าได้ เช่น ใต้ประตูหรือช่องลมต่างๆ ปิดพัดลมและเครื่องปรับอากาศ แล้วเปิดหน้าต่างส่งสัญญาณด้วยการใช้ไฟฉายหรือผ้าโบก และตะโกนขอความช่วยเหลือ ทั้งนี้ เพื่อให้คนนอกอาคารรู้ตำแหน่งที่แน่นอน

         

7. หากมีไฟลามติดตัว อย่าเพิ่งวิ่ง เพราะยิ่งวิ่ง… ไฟจะยิ่งลุกลาม ให้หยุดนิ่ง และล้มตัวลงนอนกับพื้นทันที หลังจากนั้นให้ใช้มือปิดหน้า กลิ้งตัวทับเสื้อผ้าที่ติดไฟจนดับ

         

8. อถ้าหนีออกมาได้แล้ว ไม่ควรกลับเข้าไปในอาคารอีก หากยังมีคนอื่นติดอยู่ภายในอาคาร ให้แจ้งเจ้าหน้าที่อับเพลิงทราบ เพื่อที่เจ้าหน้าที่จะได้เข้าไปช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่

การปฐมพยาบาลผู้บาดเจ็บจากไฟไหม้เบื้องต้น

           
1. ใช้น้ำสะอาด ราด รด หรือแช่ผู้บาดเจ็บจากไฟลวก เพื่อลดความเจ็บปวดของบาดแผล หยุดการทำลายจากความร้อน

           2. หากผู้บาดเจ็บสวมแหวน นาฬิกา กำไล ให้รีบถอดออก เพราะไม่นานบริเวณที่ถูกความร้อนจะเกิดอาการบวม

          3. ปิดแผลด้วยผ้าปิดแผล ถ้าหาไม่ได้ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้า ปลอกหมอนหรือผ้าปูที่นอนพันบาดแผลไว้ และรีบนำส่งโรงพยาบาล

สิ่งที่ต้องเตรียมไว้ล่วงหน้า

          1. บันไดหนีไฟ เป็นสิ่งจำเป็นที่สุด เมื่อเกิดเพลิงไหม้จะช่วยให้เราออกจากสถานที่เกิดเหตุได้ พวกอาคารสูงๆ นั้นก็ต้องมีบันไดหนีไฟไว้ด้วย แต่ถ้ามีบันไดแล้วใช้ไม่เป็นก็ไม่ดีแน่ค่ะ นี่คือข้อแนะนำในการใช้บันไดหนีไฟค่ะ
          - ควรมีการตรวจสอบสภาพของบันไดหนีไฟให้พร้อมใช้งานได้อยู่ตลอดเวลา
          - ควรซักซ้อมความเข้าใจในการใช้บันไดหนีไฟ
          - หากมีลูกกรงเหล็กดัด ต้องทำกลอนประตูที่เปิดออกได้ง่าย ไม่ควรคล้องกุญแจเด็ดขาด

          2. อุปกรณ์ดับเพลิง ควรมีไว้ประจำบ้าน ประจำชั้นต่างๆ ของตึก และต้องเรียนรู้การใช้เครื่องดับเพลิงด้วย

          3. วัตถุไวไฟ ควรเก็บให้มิดชิด หากไม่จำเป็นจริงๆ ควรเก็บไว้นอกที่พักจะดีกว่าค่ะ

          4. อุปกรณ์ไฟฟ้า ต้องรักษาให้อยู่ในสภาพดี ควรมีการตรวจสอบอยู่เสมอ หากพบว่าชำรุดต้องรีบแก้ไข ซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่ทันทีเพื่อป้องกันการเกิดไฟฟ้ารั่ว ซึ่งเป็นต้นเหตุของเพลิงไหม้

          5. อย่าใช้ลิฟท์ขณะเกิดเพลิงไหม้ เพราะลิฟท์จะเป็นช่องทางให้ควัน ความร้อนและเปลวไฟผ่าน และยิ่งถ้ากระแสไฟถูกตัดขาด รับรองว่าติดอยู่ในลิฟท์ตายแน่นอน

          6. อย่าหวงข้าวของต่างๆ อย่าคิดว่ามีเวลาเหลือพอที่จะกอบโกยข้าวของออกมา ควรรีบหนีไฟออกมาก่อนดีกว่า เงินทองของนอกกาย ไม่ตายก็หาเอาใหม่ได้ 

          โบราณว่า โจรปล้น 7 ครั้ง เสียหายน้อยกว่าไฟไหม้ครั้งเดียว…หวัง ว่าข้อแนะนำต่างๆ เหล่านี้ คงเป็นประโยชน์กับทุกคนนะคะ อย่างไรก็ตาม หากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น อย่าลืมว่าสิ่งสำคัญคือการมีสติเท่านั้นที่จะช่วยให้เรารอดชีวิตได้

ขอขอบคุณข้อมูลจาก 
  , 

ทำบุญ 3 ศาสนา อุทิศเหยื่อ “ซานติก้า ผับ”

ปลัดกทม. ทำทีม ญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ไฟไหม้ ”ซานติก้า ผับ” ทำบุญ 3 ศาสนา พุทธ คริสต์ อิสลาม หน้าที่เกิดเหตุ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ผู้ล่วงลับ เตรียมตัวคณะกรรมการตรวจสอบความปลอดภัยตึกทั่วประเทศ พบศาลพระภูมิหน้าผับมีรอยแตกร้าว ประชาชนเชื่อเป็นลางบอกเหตุ ยายเฒ่าวัย 85 ปีอาศัยอยู่ละแวกผับนรก แฉหลานเจอดี ได้ยินเสียงวิญญาณคุยกันเสียงดังจนนอนไม่หลับ สถาปนิกแถลงพบซานติก้า ไม่ได้อยู่ใน 9 ประเภทของอาคารที่ต้องถูกตรวจสอบ

 
กรณีเหตุเพลิงไหม้ ซานติก้า ผับ ย่านเอกมัย เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 64 คนและบาดเจ็บกว่า 200 ราย เมื่อคืนวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เมื่อเวลา 00.10 น. วันที่ 1 มกราคม
ความคืบหน้าล่าสุด ที่สน.ทองหล่อ เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 7 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ ที่สน.ทองหล่อ ว่า ยังคงมีญาติของผู้เสียชีวิตทยอยเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนสน.ทองหล่อ เพื่อขอรับทรัพย์สินของผู้เสียชีวิตหลังจากที่พนักงานสอบสวนเก็บเอาไว้ เพื่อพิสูจน์บุคคล อีกหลายราย ส่วนบริเวณด้านหน้าทางเข้าโรงพักข้างห้องพนักงานสอบสวน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนำพระพุทธรูปปางมารวิชัย สีทอง หน้าตักประมาณ 1 ศอก ตั้งไว้บนโต๊ะ มีดอกไม้ จุดธูปและเทียนสักการะ ซึ่งจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจของโรงพัก ทราบว่า พระพุทธรูปดังกล่าวเพิ่งนำมาตั้งไว้เมื่อตอนเช้า นอกจากนี้ยังมีการปรับเปลี่ยนห้องทำงานผู้กำกับ พ.ต.อ.สุทิน พ่วงทรัพย์ ผกก. ปรับทัศนียภาพศาลที่ตั้งอยู่ข้างโรงพักด้วย โดยเชื่อว่าเป็นการแก้เคล็ด เพราะหลังจากผกก.เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งเพียงไม่นานก็เกิดเหตุเพลิงไหม้จนทำ ให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
 
”เฮียขาว” เตรียมให้ปากคำอีกครั้ง
 
นอกจากนี้ทางด้าน นางสาวสุนันทา (ขอสงวนนามสกุล) ทีมประชาสัมพันธ์ซานติก้า ผับ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ในส่วนของรายชื่อผู้จัดทำซีดีคืนอำลาซานติก้า ผับ เป็นหนึ่งในส่วนแผนกประชาสัมพันธ์ซึ่งมีการขึ้นรายชื่อผู้ดำเนินการ  เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการนัดสอบปากคำโดยวันที่ 9 มกราคมนี้ จะทยอยมาให้ปากคำเช่นเดียวกันกลุ่มหุ้นส่วนทั้ง 31 คน รวมทั้ง นายวิสุข เสร็จสวัสดิ์ จะเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนอีกครั้งหนึ่ง มีรายงานว่า หุ้นส่วนของซานติก้าผับทั้ง 31 รายนั้น มีผู้ที่เข้าร่วมหุ่นรายใหญ่มีประมาณ 13 ราย นอกเหนือจากนั้นจะเป็นหุ่นส่วนรายย่อยๆ ในหุ้นส่วนทั้งหมดมีดารานักแสดงร่วมหุ้น 2 คน คนแรกเป็นนักร้องดูโอ ค่ายเพลงดัง ชื่อวง เกี่ยวกับสัตว์ที่สูญพันธุ์ไปแล้ว ตอนหลังผันตัวมาเป็นดารานักแสดงละครหลายเรื่อง และอีกคนเป็นน้องชายดาราระดับพระเอกชื่อดังลูกครึ่ง ที่มีเอกลักษณ์พูดภาษาไทยไม่ค่อยชัด ซึ่งทั้งสองคนเคยคิดจะขายหุ้นตั้งแต่ก่อนปีใหม่หลังสถานบันเทิงกิจการไม่ ค่อยดี กระทั่งมาเกิดเหตุเพลิงไหม้
             นอกจากนี้ยังได้รับการเปิดเผยจากเจ้าหน้าที่ทางศูนย์ที่ทางบริษัทตั้งช่วย เหลือที่สน.ทองหล่อ ว่าจะมีการจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือญาติผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บ เนื่องจากมีหลายฝ่ายที่ต้องการจะยื่นมือเข้ามาช่วย โดยมีผู้แจ้งความประสงค์ต่อบริษัทแล้วประมาณ 200 ราย
 
พยานทยอยให้ปากคำต่อเนื่อง
 
ด้าน พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ ปานสาคร รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 (รอง ผบก.น.5) หัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีนี้ กล่าวว่า วันนี้ยังคงมีพยานทยอยมาให้ปากคำอย่างต่อเนื่อง แต่น้อยกว่าวันแรก ซึ่งจนถึงขณะนี้มีพยานมาให้ปากคำแล้วกว่า 200 ปาก บางส่วนก็เพิ่งเข้าให้ปากคำเพราะเพิ่งออกจากโรงพยาบาล สำหรับกรณีที่ทีมประชาสัมพันธ์ของซานติก้า ผับ ออกมาให้ข่าวกับผู้สื่อข่าวนั้น ทางตำรวจก็อยากให้ทีมงานทั้ง 13 คนที่ตำรวจออกหมายเรียกไปแล้ว ให้ทยอยมาให้ปากคำเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงภายในวันศุกร์ที่ 9 ม.ค. นี้ ไม่ใช่ให้ข่าวกับสื่อเพียงด้านเดียว เพราะไม่มีผลทางคดี แต่หากไม่มาก็จะให้เจ้าหน้าที่ไปเชิญตัวมาสอบปากคำเอง
 
ปลัดกทม.ทำบุญ 3 ศาสนาให้ผู้เสียชีวิต
 
ต่อมาเวลา 13.00 น. ที่ซานติก้าผับ สำนักงานเขตวัฒนา ได้จัดพิธีทำบุญ 3 ศาสนา ประกอบด้วยศาสนาพุทธ คริสต์ และอิสลาม เพื่ออุทิศส่วนกุศลแก่ดวงวิญญาณแก่ผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้ โดยมี ดร.พงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธี ทั้งนี้ได้มีคณะผู้บริหารกทม. ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตวัฒนา รวมทั้งญาติของผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับาดเจ็บจำนวน กว่า 500 คน เข้าร่วมพิธี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพิธีทำบุญในครั้งนี้เริ่มที่พิธีทางศาสนาพุธ ที่ได้นิมนต์พระภิกษุจำนวน 10 รูป มาสวดเจริญพระพุทธมนต์ จากนั้นเป็นพิธีถวายสังฆทานเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิต ก่อนจะฝ่ายฆราวาสจะถวายเครื่องไทยทาน ทอดผ้าบังสุกุล จากนั้นพระสงฆ์ประพรมน้ำพระพุทธมนต์จนเป็นอันเสร็จพิธี
 
จากนั้นเป็นพิธีทางศาสนาอิสลาม ตัวแทนชาวมุสลิมนำโดย คุณครูทวี มณฑา ได้ร่วมทำพิธีอีซีกุโบร์ โดยเริ่มจากอ่านพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานซูเราะห์ยาซีน กล่าวสรรเสริญพระองค์อัลเลาะห์ นีมูฮัมหมัด และขอดุอาให้พระผู้เป็นเจ้าทรงเมตตาและภัยโทษแก่ผู้เสียชีวิต จากนั้นเป็นพิธีไว้อาลัยตามหลักศาสนาคริสต์ นำโดย ศาสตาจารย์ ดร.ศึกษา เทพอารีย์ ศิษยาภิบาล คริสจักรวัฒนา และ อาจารย์สันติ แดงเรือนรอง
  
หลังเสร็จสิ้นพิธี ดร.พงศ์ศักติฐ์ เปิดเผยว่า วันนี้ทางเจ้าหน้าที่กทม. พร้อมทั้งญาติผู้เสียชีวิต และผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธาณภัยที่ได้ร่วมปฏิบัติหน้าที่ในวันเกิดเหตุ ได้ร่วมทำบุญ 3 ศาสนา ทั้งพุทธ คริสต์ และอิสลาม เพื่ออุทิศส่วนกุศลกับผู้เสียชีวิต และเรียกขวัญกำลังใจของญาติพี่น้องผู้เสียชีวิต และผู้ได้รับบาดเจ็บให้กับคืนมา
 
ตั้ง กก.ตรวจสอบความปลอดภัยของอาคาร

             ทั้งนี้ทางกทม.ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและแก้ไขด้านความ ปลอดภัยการใช้อาคารเป็นกรณีพิเศษ เพื่อตรวจสอบมาตรการรักษาความปลอดภัยของอาคาร โรงภาพยนตร์ โรงแรม ห้างสรรพสินค้า หอพัก อะพาร์ตเมนต์ ฯลฯ ที่อาจจะมีผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินความปลอดภัยของประชาชนโดยส่วนรวม  นอกจากนี้ภายในสัปดาห์หน้าสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะเชิญผู้ประกอบ การอาคารต่างๆ ร่วมประชุมเพื่อชี้แจง แนะนำเกี่ยวกับมาตรการความปลอดภัยให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการ ตรวจสอและแก้ไขความปลอดภัยการใช้อาคาร พร้อมทั้งแจกเอกสารคู่มือแนะนำ คำเตือนต่อผู้ประกอบการและประชาชนด้วย
 
เปลี่ยนหน่วยเลือกตั้งผู้ว่าฯ จากซานติก้าเป็นเต็นท์รถใกล้เคียง

             ด้าน นายวรพจน์ อินทุลักษณ์ ผอ.เขตวัฒนา ได้แจ้งย้ายสถานที่เลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จากเดิมได้กำหนดให้หน่วยเลือกตั้งที่ 28-31 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา อยู่ที่บริเวณลานจอดรถซานติก้าผับ แต่เนื่องจากเกิดเหตุเพลิงไหม้ และได้ประกาศให้เป็นพื้นที่เขตหวงห้าม รวมทั้งมีคำสั่ง ให้เจ้าของอาคารดำเนินการรื้อถอน ทางเขตจึงย้ายหน่วยเลือกตั้งดังกล่าวไปอยู่ที่เต็นท์จำหน่ายรถยนต์ระหว่าง ซอยเอกมัย 7 กับเอกมัย 9
 
เสียตาชั่ง บุกโวย จนท.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นพิธีทำบุญดังกล่าว ได้มี นายอุทิศ เหมวัตกิจ อายุ 55 ปี หรือเสี่ยตาชั่ง ได้เดินหอบเอกสารตรงรี่เข้าไปสอบถาม ดร.พงศ์ศักติฐ์ ถึงเรื่องอำนาจหน้าที่ในการควบคุมดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยของกทม. เกี่ยวกับพระราชบัญญัติควมคุมอาคาร ต่างๆ โดยในลักษณะออกอาการโวยวายเสียงดังทำให้เป็นที่สนใจของผู้ที่ไปร่วมงาน ซึ่งในตอนหลังเจ้าหน้าที่ของกทม.ต้องรีบมากันตัวออกไป
 
พบศาลพระภูมิแตกร้าว

หลังจากเสร็จสิ้นพิธีทางศาสนาผู้สื่อข่าวได้เดินสำรวจรอบบริเวณที่เกิดเหตุ ก็ได้สังเกตพบศาลพระแม่ธรณีที่อยู่บริเวณทางเข้าซานติก้าผับ เมื่อผู้สื่อข่าวเดินเข้าไปดูใกล้ๆ บริเวณศาล ปรากฏว่าพบรอยร้าวเป็นทางยาวบริเวณโคนเสาของศาล ซึ่งถือเป็นลางบอกเหตุอะไรบางอย่างหรือไม่ ระหว่างนั้นมีประชาชนสังเกตเห็นผู้สื่อข่าวเข้าไปถ่ายภาพเลยเดินเข้าไปดูทำ ให้เป็นที่จับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากมาย 
 
ยายเฒ่าวัย 85 แฉหลานเจอดี

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังได้สอบถามจากนางกิ่งกนก อายุ 85 ปีซึ่งชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้ซานติก้าผับ ว่าได้พบอะไรผิดสังเกตบ้างหรือเปล่าในช่วงตั้งแต่เกิดเหตุมา โดยผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากคุณยายวัยชราผู้นี้ว่า ตนอาศัยอยู่ที่นี้มากว่า 50 ปีแล้วไม่เคยพบเรื่องอะไรที่ใครๆ เขาพูดกัน แม้กระทั่งหลังเกิดเหตุตนเองไม่เคยพบอะไร และไม่เคยได้ยินเสียงอะไร แต่หลานชายที่อยู่ที่บ้านเดียวกันนี้ก็บ่นให้ตนฟังตลอดว่าได้ยินเสียงจนนอน ไม่หลับ พร้อมกับย้อนถามตนเองว่านอนหลับได้ยังไง ซึ่งหลานได้ยินเหมือนเสียงคนจำนวนมากคุยกันทั้งคืนนางกิ่งกนก  ยายชราวัย 85 ปีกล่าว
 
วันเดียวกัน ที่อาษาเซ็นเตอร์ ชั้น 5 สยามดิสคัฟเวอรี่ นายทวีจิตร จันทรสาขา นายกสมาคมสถาปนิกสยาม ร่วมกับนายประสงค์ ธาราไชย นายกสมาคมวิศวกรรมสถาน และ ผศ.ชลชัย ธรรมวิวัฒนุกูร นายกสมาคมผู้ตรวจสอบและบริหารความปลอดภัย แถลงเรื่องความปลอดภัยจากอัคคีภัย กรณีศึกษาซานติก้า ในการลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้ที่ซานติก้าพบว่า มีการตรวจพบวัสดุโฟม Polystyrene และวัสดุไฟเบอร์กลาสตกแต่งหุ้มผนังและเสา พบซากไหม้ของวัสดุฉนวนใต้แผ่นหลังคาจำนวนมาก ซึ่งน่าจะเป็นโฟมที่มีความไวไฟโดยขณะนี้
ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำไปตรวจสอบว่าเป็นอะไร หากเป็นโฟมนำไปใช้บนพื้นหลังคาซึ่งอยู่ใกล้สปอตไลต์ไม่ใช้เรื่องที่ถูกต้อง และยังไม่พบระบบรักษาความปลอดภัยจากอัคคีภัย รวมทั้งไม่เคยถูกตรวจสอบความปลอดภัยเพราะไม่เข้าอยู่ใน 9 ประเภทของอาคารที่ต้องถูกตรวจสอบ อาคารลักษณะนี้ยังมีอยู่มากเจ้าหน้าที่ต้องเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมาย
 
นอกจากนี้นายทวีจิตร ยังกล่าวต่อว่า กำลังติดตามดูว่าใครเป็นคนออกแบบสถานที่แห่งนี้ มีการขออนุญาตว่าใช้เป็นอะไร  มีการตบแต่งนอกเหนือที่ขอไว้หรือไม่ สมาคมพยายามติดตามตัวคนออกแบบแต่ยังไม่พบว่าใครออกแบบไว้ คนออกแบบคือคนที่ต้องรับผิดชอบ เรื่องนี้ต้องถามจากภาครัฐเพราะการขออนุญาตต้องมีชื่อของคนที่ออกแบบ ซานติก้าสูงไม่เกิน 5 ชั้น ต้องขออนุญาตกับทางสำนักงานเขตที่ทำ

             การขออนุญาตเป็นอะไรต้องใช้ตามนั้น  แต่ส่วนใหญ่มักนำไปดัดแปลงเป็นอีกอย่าง จึงต้องให้มีการบังคับใช้กฎหมายเข้มงวด กำหนดโทษให้สูงขึ้น รวมทั้งต้องตรวจสถานบริการที่ไม่ปลอดภัยควบคู่ไปกับการปลุกจิตสำนึกของผู้ ประกอบการ กฎหมายเดิมดีอยู่แล้วแต่ผู้ประกอบการมักใช้ช่องว่าง
ของกฎหมายหลบหลีก
 
ด้านนายประสงค์ กล่าวว่า ผู้ประกอบการต้องรู้ว่าพื้นที่ของตนเองทำอะไรมีระบบรักษาความปลอดภัยหรือไม่ ต้องหมั่นดูแลตรวจสอบให้ใช้งานได้ตลอดเวลา ในเรื่องนี้ 3 สมาคมจะให้คำปรึกษากับประชาชนในการป้องกันและรับมืออัคคีภัย สามารถติดต่อสอบถามทางสมาคมได้ตลอดเวลา รวมทั้งจะร่วมกันผลักดันปรับปรุงกฎระเบียบข้อบังคับมาตรฐานความปลอดภัย เกี่ยวกับอัคคีภัย โดยเฉพาะ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ทั้ง 3 ฉบับ  กฎหมายและบทลงโทษมีอยู่แล้วแต่ไม่เข้มงวด จึงต้องผลักดันให้มีการบังคับใช้กฎหมาย ทั้ง 3 สมาคมจะส่งผู้เชี่ยวชาญขึ้นมาร่างประเด็นว่ามีอะไรบ้างที่ต้องปรับปรุงแก้ไข หลังจากนั้นจะนำเสนอไปยังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีให้พิจารณา
 

ข้อมูลจาก
 


ทำบุญ 3 ศาสนา อุทิศเหยื่อ “ซานติก้า ผับ”

ทำบุญ 3 ศาสนา อุทิศเหยื่อ “ซานติก้า ผับ”

ปลัดกทม. ทำทีม ญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ไฟไหม้ ”ซานติก้า ผับ” ทำบุญ 3 ศาสนา พุทธ คริสต์ อิสลาม หน้าที่เกิดเหตุ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ผู้ล่วงลับ เตรียมตัวคณะกรรมการตรวจสอบความปลอดภัยตึกทั่วประเทศ พบศาลพระภูมิหน้าผับมีรอยแตกร้าว ประชาชนเชื่อเป็นลางบอกเหตุ ยายเฒ่าวัย 85 ปีอาศัยอยู่ละแวกผับนรก แฉหลานเจอดี ได้ยินเสียงวิญญาณคุยกันเสียงดังจนนอนไม่หลับ สถาปนิกแถลงพบซานติก้า ไม่ได้อยู่ใน 9 ประเภทของอาคารที่ต้องถูกตรวจสอบ

 
กรณีเหตุเพลิงไหม้ ซานติก้า ผับ ย่านเอกมัย เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 64 คนและบาดเจ็บกว่า 200 ราย เมื่อคืนวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เมื่อเวลา 00.10 น. วันที่ 1 มกราคม
ความคืบหน้าล่าสุด ที่สน.ทองหล่อ เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 7 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ ที่สน.ทองหล่อ ว่า ยังคงมีญาติของผู้เสียชีวิตทยอยเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนสน.ทองหล่อ เพื่อขอรับทรัพย์สินของผู้เสียชีวิตหลังจากที่พนักงานสอบสวนเก็บเอาไว้ เพื่อพิสูจน์บุคคล อีกหลายราย ส่วนบริเวณด้านหน้าทางเข้าโรงพักข้างห้องพนักงานสอบสวน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนำพระพุทธรูปปางมารวิชัย สีทอง หน้าตักประมาณ 1 ศอก ตั้งไว้บนโต๊ะ มีดอกไม้ จุดธูปและเทียนสักการะ ซึ่งจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจของโรงพัก ทราบว่า พระพุทธรูปดังกล่าวเพิ่งนำมาตั้งไว้เมื่อตอนเช้า นอกจากนี้ยังมีการปรับเปลี่ยนห้องทำงานผู้กำกับ พ.ต.อ.สุทิน พ่วงทรัพย์ ผกก. ปรับทัศนียภาพศาลที่ตั้งอยู่ข้างโรงพักด้วย โดยเชื่อว่าเป็นการแก้เคล็ด เพราะหลังจากผกก.เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งเพียงไม่นานก็เกิดเหตุเพลิงไหม้จนทำ ให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
 
”เฮียขาว” เตรียมให้ปากคำอีกครั้ง
 
นอกจากนี้ทางด้าน นางสาวสุนันทา (ขอสงวนนามสกุล) ทีมประชาสัมพันธ์ซานติก้า ผับ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ในส่วนของรายชื่อผู้จัดทำซีดีคืนอำลาซานติก้า ผับ เป็นหนึ่งในส่วนแผนกประชาสัมพันธ์ซึ่งมีการขึ้นรายชื่อผู้ดำเนินการ  เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการนัดสอบปากคำโดยวันที่ 9 มกราคมนี้ จะทยอยมาให้ปากคำเช่นเดียวกันกลุ่มหุ้นส่วนทั้ง 31 คน รวมทั้ง นายวิสุข เสร็จสวัสดิ์ จะเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนอีกครั้งหนึ่ง มีรายงานว่า หุ้นส่วนของซานติก้าผับทั้ง 31 รายนั้น มีผู้ที่เข้าร่วมหุ่นรายใหญ่มีประมาณ 13 ราย นอกเหนือจากนั้นจะเป็นหุ่นส่วนรายย่อยๆ ในหุ้นส่วนทั้งหมดมีดารานักแสดงร่วมหุ้น 2 คน คนแรกเป็นนักร้องดูโอ ค่ายเพลงดัง ชื่อวง เกี่ยวกับสัตว์ที่สูญพันธุ์ไปแล้ว ตอนหลังผันตัวมาเป็นดารานักแสดงละครหลายเรื่อง และอีกคนเป็นน้องชายดาราระดับพระเอกชื่อดังลูกครึ่ง ที่มีเอกลักษณ์พูดภาษาไทยไม่ค่อยชัด ซึ่งทั้งสองคนเคยคิดจะขายหุ้นตั้งแต่ก่อนปีใหม่หลังสถานบันเทิงกิจการไม่ ค่อยดี กระทั่งมาเกิดเหตุเพลิงไหม้
             นอกจากนี้ยังได้รับการเปิดเผยจากเจ้าหน้าที่ทางศูนย์ที่ทางบริษัทตั้งช่วย เหลือที่สน.ทองหล่อ ว่าจะมีการจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือญาติผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บ เนื่องจากมีหลายฝ่ายที่ต้องการจะยื่นมือเข้ามาช่วย โดยมีผู้แจ้งความประสงค์ต่อบริษัทแล้วประมาณ 200 ราย
 
พยานทยอยให้ปากคำต่อเนื่อง
 
ด้าน พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ ปานสาคร รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 (รอง ผบก.น.5) หัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีนี้ กล่าวว่า วันนี้ยังคงมีพยานทยอยมาให้ปากคำอย่างต่อเนื่อง แต่น้อยกว่าวันแรก ซึ่งจนถึงขณะนี้มีพยานมาให้ปากคำแล้วกว่า 200 ปาก บางส่วนก็เพิ่งเข้าให้ปากคำเพราะเพิ่งออกจากโรงพยาบาล สำหรับกรณีที่ทีมประชาสัมพันธ์ของซานติก้า ผับ ออกมาให้ข่าวกับผู้สื่อข่าวนั้น ทางตำรวจก็อยากให้ทีมงานทั้ง 13 คนที่ตำรวจออกหมายเรียกไปแล้ว ให้ทยอยมาให้ปากคำเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงภายในวันศุกร์ที่ 9 ม.ค. นี้ ไม่ใช่ให้ข่าวกับสื่อเพียงด้านเดียว เพราะไม่มีผลทางคดี แต่หากไม่มาก็จะให้เจ้าหน้าที่ไปเชิญตัวมาสอบปากคำเอง
 
ปลัดกทม.ทำบุญ 3 ศาสนาให้ผู้เสียชีวิต
 
ต่อมาเวลา 13.00 น. ที่ซานติก้าผับ สำนักงานเขตวัฒนา ได้จัดพิธีทำบุญ 3 ศาสนา ประกอบด้วยศาสนาพุทธ คริสต์ และอิสลาม เพื่ออุทิศส่วนกุศลแก่ดวงวิญญาณแก่ผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้ โดยมี ดร.พงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธี ทั้งนี้ได้มีคณะผู้บริหารกทม. ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตวัฒนา รวมทั้งญาติของผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับาดเจ็บจำนวน กว่า 500 คน เข้าร่วมพิธี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพิธีทำบุญในครั้งนี้เริ่มที่พิธีทางศาสนาพุธ ที่ได้นิมนต์พระภิกษุจำนวน 10 รูป มาสวดเจริญพระพุทธมนต์ จากนั้นเป็นพิธีถวายสังฆทานเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิต ก่อนจะฝ่ายฆราวาสจะถวายเครื่องไทยทาน ทอดผ้าบังสุกุล จากนั้นพระสงฆ์ประพรมน้ำพระพุทธมนต์จนเป็นอันเสร็จพิธี
 
จากนั้นเป็นพิธีทางศาสนาอิสลาม ตัวแทนชาวมุสลิมนำโดย คุณครูทวี มณฑา ได้ร่วมทำพิธีอีซีกุโบร์ โดยเริ่มจากอ่านพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานซูเราะห์ยาซีน กล่าวสรรเสริญพระองค์อัลเลาะห์ นีมูฮัมหมัด และขอดุอาให้พระผู้เป็นเจ้าทรงเมตตาและภัยโทษแก่ผู้เสียชีวิต จากนั้นเป็นพิธีไว้อาลัยตามหลักศาสนาคริสต์ นำโดย ศาสตาจารย์ ดร.ศึกษา เทพอารีย์ ศิษยาภิบาล คริสจักรวัฒนา และ อาจารย์สันติ แดงเรือนรอง
  
หลังเสร็จสิ้นพิธี ดร.พงศ์ศักติฐ์ เปิดเผยว่า วันนี้ทางเจ้าหน้าที่กทม. พร้อมทั้งญาติผู้เสียชีวิต และผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธาณภัยที่ได้ร่วมปฏิบัติหน้าที่ในวันเกิดเหตุ ได้ร่วมทำบุญ 3 ศาสนา ทั้งพุทธ คริสต์ และอิสลาม เพื่ออุทิศส่วนกุศลกับผู้เสียชีวิต และเรียกขวัญกำลังใจของญาติพี่น้องผู้เสียชีวิต และผู้ได้รับบาดเจ็บให้กับคืนมา
 
ตั้ง กก.ตรวจสอบความปลอดภัยของอาคาร

             ทั้งนี้ทางกทม.ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและแก้ไขด้านความ ปลอดภัยการใช้อาคารเป็นกรณีพิเศษ เพื่อตรวจสอบมาตรการรักษาความปลอดภัยของอาคาร โรงภาพยนตร์ โรงแรม ห้างสรรพสินค้า หอพัก อะพาร์ตเมนต์ ฯลฯ ที่อาจจะมีผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินความปลอดภัยของประชาชนโดยส่วนรวม  นอกจากนี้ภายในสัปดาห์หน้าสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะเชิญผู้ประกอบ การอาคารต่างๆ ร่วมประชุมเพื่อชี้แจง แนะนำเกี่ยวกับมาตรการความปลอดภัยให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการ ตรวจสอและแก้ไขความปลอดภัยการใช้อาคาร พร้อมทั้งแจกเอกสารคู่มือแนะนำ คำเตือนต่อผู้ประกอบการและประชาชนด้วย
 
เปลี่ยนหน่วยเลือกตั้งผู้ว่าฯ จากซานติก้าเป็นเต็นท์รถใกล้เคียง

             ด้าน นายวรพจน์ อินทุลักษณ์ ผอ.เขตวัฒนา ได้แจ้งย้ายสถานที่เลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จากเดิมได้กำหนดให้หน่วยเลือกตั้งที่ 28-31 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา อยู่ที่บริเวณลานจอดรถซานติก้าผับ แต่เนื่องจากเกิดเหตุเพลิงไหม้ และได้ประกาศให้เป็นพื้นที่เขตหวงห้าม รวมทั้งมีคำสั่ง ให้เจ้าของอาคารดำเนินการรื้อถอน ทางเขตจึงย้ายหน่วยเลือกตั้งดังกล่าวไปอยู่ที่เต็นท์จำหน่ายรถยนต์ระหว่าง ซอยเอกมัย 7 กับเอกมัย 9
 
เสียตาชั่ง บุกโวย จนท.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นพิธีทำบุญดังกล่าว ได้มี นายอุทิศ เหมวัตกิจ อายุ 55 ปี หรือเสี่ยตาชั่ง ได้เดินหอบเอกสารตรงรี่เข้าไปสอบถาม ดร.พงศ์ศักติฐ์ ถึงเรื่องอำนาจหน้าที่ในการควบคุมดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยของกทม. เกี่ยวกับพระราชบัญญัติควมคุมอาคาร ต่างๆ โดยในลักษณะออกอาการโวยวายเสียงดังทำให้เป็นที่สนใจของผู้ที่ไปร่วมงาน ซึ่งในตอนหลังเจ้าหน้าที่ของกทม.ต้องรีบมากันตัวออกไป
 
พบศาลพระภูมิแตกร้าว

หลังจากเสร็จสิ้นพิธีทางศาสนาผู้สื่อข่าวได้เดินสำรวจรอบบริเวณที่เกิดเหตุ ก็ได้สังเกตพบศาลพระแม่ธรณีที่อยู่บริเวณทางเข้าซานติก้าผับ เมื่อผู้สื่อข่าวเดินเข้าไปดูใกล้ๆ บริเวณศาล ปรากฏว่าพบรอยร้าวเป็นทางยาวบริเวณโคนเสาของศาล ซึ่งถือเป็นลางบอกเหตุอะไรบางอย่างหรือไม่ ระหว่างนั้นมีประชาชนสังเกตเห็นผู้สื่อข่าวเข้าไปถ่ายภาพเลยเดินเข้าไปดูทำ ให้เป็นที่จับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากมาย 
 
ยายเฒ่าวัย 85 แฉหลานเจอดี

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังได้สอบถามจากนางกิ่งกนก อายุ 85 ปีซึ่งชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้ซานติก้าผับ ว่าได้พบอะไรผิดสังเกตบ้างหรือเปล่าในช่วงตั้งแต่เกิดเหตุมา โดยผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากคุณยายวัยชราผู้นี้ว่า ตนอาศัยอยู่ที่นี้มากว่า 50 ปีแล้วไม่เคยพบเรื่องอะไรที่ใครๆ เขาพูดกัน แม้กระทั่งหลังเกิดเหตุตนเองไม่เคยพบอะไร และไม่เคยได้ยินเสียงอะไร แต่หลานชายที่อยู่ที่บ้านเดียวกันนี้ก็บ่นให้ตนฟังตลอดว่าได้ยินเสียงจนนอน ไม่หลับ พร้อมกับย้อนถามตนเองว่านอนหลับได้ยังไง ซึ่งหลานได้ยินเหมือนเสียงคนจำนวนมากคุยกันทั้งคืนนางกิ่งกนก  ยายชราวัย 85 ปีกล่าว
 
วันเดียวกัน ที่อาษาเซ็นเตอร์ ชั้น 5 สยามดิสคัฟเวอรี่ นายทวีจิตร จันทรสาขา นายกสมาคมสถาปนิกสยาม ร่วมกับนายประสงค์ ธาราไชย นายกสมาคมวิศวกรรมสถาน และ ผศ.ชลชัย ธรรมวิวัฒนุกูร นายกสมาคมผู้ตรวจสอบและบริหารความปลอดภัย แถลงเรื่องความปลอดภัยจากอัคคีภัย กรณีศึกษาซานติก้า ในการลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้ที่ซานติก้าพบว่า มีการตรวจพบวัสดุโฟม Polystyrene และวัสดุไฟเบอร์กลาสตกแต่งหุ้มผนังและเสา พบซากไหม้ของวัสดุฉนวนใต้แผ่นหลังคาจำนวนมาก ซึ่งน่าจะเป็นโฟมที่มีความไวไฟโดยขณะนี้
ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำไปตรวจสอบว่าเป็นอะไร หากเป็นโฟมนำไปใช้บนพื้นหลังคาซึ่งอยู่ใกล้สปอตไลต์ไม่ใช้เรื่องที่ถูกต้อง และยังไม่พบระบบรักษาความปลอดภัยจากอัคคีภัย รวมทั้งไม่เคยถูกตรวจสอบความปลอดภัยเพราะไม่เข้าอยู่ใน 9 ประเภทของอาคารที่ต้องถูกตรวจสอบ อาคารลักษณะนี้ยังมีอยู่มากเจ้าหน้าที่ต้องเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมาย
 
นอกจากนี้นายทวีจิตร ยังกล่าวต่อว่า กำลังติดตามดูว่าใครเป็นคนออกแบบสถานที่แห่งนี้ มีการขออนุญาตว่าใช้เป็นอะไร  มีการตบแต่งนอกเหนือที่ขอไว้หรือไม่ สมาคมพยายามติดตามตัวคนออกแบบแต่ยังไม่พบว่าใครออกแบบไว้ คนออกแบบคือคนที่ต้องรับผิดชอบ เรื่องนี้ต้องถามจากภาครัฐเพราะการขออนุญาตต้องมีชื่อของคนที่ออกแบบ ซานติก้าสูงไม่เกิน 5 ชั้น ต้องขออนุญาตกับทางสำนักงานเขตที่ทำ

             การขออนุญาตเป็นอะไรต้องใช้ตามนั้น  แต่ส่วนใหญ่มักนำไปดัดแปลงเป็นอีกอย่าง จึงต้องให้มีการบังคับใช้กฎหมายเข้มงวด กำหนดโทษให้สูงขึ้น รวมทั้งต้องตรวจสถานบริการที่ไม่ปลอดภัยควบคู่ไปกับการปลุกจิตสำนึกของผู้ ประกอบการ กฎหมายเดิมดีอยู่แล้วแต่ผู้ประกอบการมักใช้ช่องว่าง
ของกฎหมายหลบหลีก
 
ด้านนายประสงค์ กล่าวว่า ผู้ประกอบการต้องรู้ว่าพื้นที่ของตนเองทำอะไรมีระบบรักษาความปลอดภัยหรือไม่ ต้องหมั่นดูแลตรวจสอบให้ใช้งานได้ตลอดเวลา ในเรื่องนี้ 3 สมาคมจะให้คำปรึกษากับประชาชนในการป้องกันและรับมืออัคคีภัย สามารถติดต่อสอบถามทางสมาคมได้ตลอดเวลา รวมทั้งจะร่วมกันผลักดันปรับปรุงกฎระเบียบข้อบังคับมาตรฐานความปลอดภัย เกี่ยวกับอัคคีภัย โดยเฉพาะ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ทั้ง 3 ฉบับ  กฎหมายและบทลงโทษมีอยู่แล้วแต่ไม่เข้มงวด จึงต้องผลักดันให้มีการบังคับใช้กฎหมาย ทั้ง 3 สมาคมจะส่งผู้เชี่ยวชาญขึ้นมาร่างประเด็นว่ามีอะไรบ้างที่ต้องปรับปรุงแก้ไข หลังจากนั้นจะนำเสนอไปยังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีให้พิจารณา
 

ข้อมูลจาก
 


ทำบุญ 3 ศาสนา อุทิศเหยื่อ “ซานติก้า ผับ”

คลังฟันธงเก็บภาษีซานติก้าผับ

คณะกรรมการสอบซานติก้าผับ ฟันธงสรรพสามิต ละเว้นเก็บภาษี เตรียมส่งรมว.คลัง จัดการ
แหล่งข่าวจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องการเสียภาษีสรรพสามิตของ สถานบริการซานติก้าผับ เปิดเผยว่า คณะกรรมการส่วนใหญ่ลงความเห็นว่าซานติก้าผับควรเสียภาษีสรรพสามิต ตามพ.ร.บ.สรรพสามิต พ.ศ. 2527 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2546 โดยจะแจ้งเรื่องให้ นพ.พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รมช.คลัง รับทราบต่อไป

นพ.พฤฒิชัย ดำรงรัตน์
แหล่งข่าวระบุ ว่า คณะกรรมการฯ ไม่มีการชี้มูลความผิดข้าราชการกรมสรรพสามิต เนื่องจากเป็น การปฏิบัติตามระเบียบการบริหารราชการแผ่นดินเพื่อหาข้อยุติเรื่องการเสีย ภาษีเท่านั้น

แหล่งข่าวจากกรมสรรพสามิต กล่าวว่า นางสิรินุช พิศลยบุตร อธิบดีกรมสรรพสามิต ได้เรียกประชุมคณะกรรมการบริหารกรมสรรพสามิต พบว่า ที่ประชุมยังมีความเห็นไม่ตรงกัน โดยหากกรมยืนยันว่าซานติก้าไม่ต้องเสียภาษี ก็จะทำให้ผู้เสียภาษีถูกต้องฟ้องขอคืนภาษี แต่คณะกรรมการบริหารกรมสรรพสามิตอีกส่วนเห็นว่าซานติก้าต้องเสียภาษี ก็จะถูกฟ้องละเว้นปฏิบัติหน้าที่

นพ.พฤฒิชัย เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากคณะกรรมการตรวจ สอบ ข้อเท็จจริงฯ มีนายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ รองปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ว่าได้ทำเรื่องขอข้อมูลจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ มาประกอบการพิจารณา โดยสัปดาห์หน้าก็จะสามารถแถลงผลสอบได้ว่าเป็นอย่างไร

นายสถิตย์ กล่าวว่า ข้อมูลที่ขอจากดีเอสไอ อาทิ การสอบสวน ผู้ประกอบการและพยานแวดล้อมเกี่ยวกับลักษณะการให้บริการของซานติก้าผับใน ช่วงที่ผ่านมา

สำหรับกรณีที่ไม่ขอข้อมูลจากกรมสรรพสามิต เพราะเห็นว่าเป็น ผู้มีส่วนได้เสีย คณะกรรมการจึงเห็นว่าควรขอข้อมูลจากองค์กร ที่เป็นกลางน่าจะดีกว่า

คลังฟันธงเก็บภาษีซานติก้าผับ

คณะกรรมการสอบซานติก้าผับ ฟันธงสรรพสามิต ละเว้นเก็บภาษี เตรียมส่งรมว.คลัง จัดการ
แหล่งข่าวจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องการเสียภาษีสรรพสามิตของ สถานบริการซานติก้าผับ เปิดเผยว่า คณะกรรมการส่วนใหญ่ลงความเห็นว่าซานติก้าผับควรเสียภาษีสรรพสามิต ตามพ.ร.บ.สรรพสามิต พ.ศ. 2527 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2546 โดยจะแจ้งเรื่องให้ นพ.พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รมช.คลัง รับทราบต่อไป

นพ.พฤฒิชัย ดำรงรัตน์
แหล่งข่าวระบุ ว่า คณะกรรมการฯ ไม่มีการชี้มูลความผิดข้าราชการกรมสรรพสามิต เนื่องจากเป็น การปฏิบัติตามระเบียบการบริหารราชการแผ่นดินเพื่อหาข้อยุติเรื่องการเสีย ภาษีเท่านั้น

แหล่งข่าวจากกรมสรรพสามิต กล่าวว่า นางสิรินุช พิศลยบุตร อธิบดีกรมสรรพสามิต ได้เรียกประชุมคณะกรรมการบริหารกรมสรรพสามิต พบว่า ที่ประชุมยังมีความเห็นไม่ตรงกัน โดยหากกรมยืนยันว่าซานติก้าไม่ต้องเสียภาษี ก็จะทำให้ผู้เสียภาษีถูกต้องฟ้องขอคืนภาษี แต่คณะกรรมการบริหารกรมสรรพสามิตอีกส่วนเห็นว่าซานติก้าต้องเสียภาษี ก็จะถูกฟ้องละเว้นปฏิบัติหน้าที่

นพ.พฤฒิชัย เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากคณะกรรมการตรวจ สอบ ข้อเท็จจริงฯ มีนายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ รองปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ว่าได้ทำเรื่องขอข้อมูลจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ มาประกอบการพิจารณา โดยสัปดาห์หน้าก็จะสามารถแถลงผลสอบได้ว่าเป็นอย่างไร

นายสถิตย์ กล่าวว่า ข้อมูลที่ขอจากดีเอสไอ อาทิ การสอบสวน ผู้ประกอบการและพยานแวดล้อมเกี่ยวกับลักษณะการให้บริการของซานติก้าผับใน ช่วงที่ผ่านมา

สำหรับกรณีที่ไม่ขอข้อมูลจากกรมสรรพสามิต เพราะเห็นว่าเป็น ผู้มีส่วนได้เสีย คณะกรรมการจึงเห็นว่าควรขอข้อมูลจากองค์กร ที่เป็นกลางน่าจะดีกว่า

ซานติก้าผับมีสิทธิ์ถูกเก็บภาษีย้อนหลัง

หลังจากที่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องการเสียภาษีสรรพสามิตของ สถานบริการซานติก้าผับได้ส่งข้อสรุปสำนวนและการละเว้นการเก็บภาษีสรรพสามิต สำหรับสถานบันเทิงให้ น.พ.พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รมช.คลัง พิจารณาแล้ว ขั้นตอนหลังจากนี้ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของ รมว.คลัง ว่าจะสั่งการอย่างไร ทั้งนี้หาก รมช.คลัง ใช้ผลตรวจสอบของคณะกรรมการเป็นหลักในการปฏิบัติงานซาติก้าผับจะต้องเสียภาษี

โดยกรมสรรพสามิตจะต้องจัดเก็บภาษีสถานประกอบการย้อนหลังในอัตราภาษีสถาน ประกอบการประเภทดิสโก้เธคและไนท์คลับร้อยละ 10 ของรายได้รวมและต้องมีการจัดเก็บภาษีย้อนหลัง โดยผู้ที่กระทำผิดจะมีการปรับเบี้ยอีก 2 เท่าของภาษีที่ต้องเสียและผู้ประกอบการจะต้องจ่ายเงินเพิ่มอีกร้อยละ 1.5 ของภาษี อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ น.พ.พฤฒิชัย จะแถลงข่าวผลการสอบสวนในเรื่องนี้เวลา 14.00 น.เพื่อความชัดเจนว่าซานติก้าผับจะต้องเสียภาษีหรือไม่

ซานติก้าผับมีสิทธิ์ถูกเก็บภาษีย้อนหลัง

ซานติก้าผับมีสิทธิ์ถูกเก็บภาษีย้อนหลัง

หลังจากที่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องการเสียภาษีสรรพสามิตของ สถานบริการซานติก้าผับได้ส่งข้อสรุปสำนวนและการละเว้นการเก็บภาษีสรรพสามิต สำหรับสถานบันเทิงให้ น.พ.พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รมช.คลัง พิจารณาแล้ว ขั้นตอนหลังจากนี้ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของ รมว.คลัง ว่าจะสั่งการอย่างไร ทั้งนี้หาก รมช.คลัง ใช้ผลตรวจสอบของคณะกรรมการเป็นหลักในการปฏิบัติงานซาติก้าผับจะต้องเสียภาษี

โดยกรมสรรพสามิตจะต้องจัดเก็บภาษีสถานประกอบการย้อนหลังในอัตราภาษีสถาน ประกอบการประเภทดิสโก้เธคและไนท์คลับร้อยละ 10 ของรายได้รวมและต้องมีการจัดเก็บภาษีย้อนหลัง โดยผู้ที่กระทำผิดจะมีการปรับเบี้ยอีก 2 เท่าของภาษีที่ต้องเสียและผู้ประกอบการจะต้องจ่ายเงินเพิ่มอีกร้อยละ 1.5 ของภาษี อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ น.พ.พฤฒิชัย จะแถลงข่าวผลการสอบสวนในเรื่องนี้เวลา 14.00 น.เพื่อความชัดเจนว่าซานติก้าผับจะต้องเสียภาษีหรือไม่

ซานติก้าผับมีสิทธิ์ถูกเก็บภาษีย้อนหลัง

คาดสรุปผลสอบ ซานติก้า เสียภาษีหรือไม่ภายในเดือนนี้

กระทรวงคลัง 3 มี.ค. - นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธ์ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานสอบข้อเท็จจริงกรณีปัญหาซานติก้าผับ กล่าวว่า จากคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนเรื่องดังกล่าวยังมีข้อจำกัด 2 ด้านคือ ระยะเวลา 15 วัน เป็นเวลาที่สั้นอาจทำได้ไม่ครอบคลุม อีกทั้งคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาไม่มีอำนาจเรียกบุคคลภายนอกมาให้ข้อมูลจึง เป็นอุปสรรคต่อการทำงานของคณะกรรมการฯ อย่างไรก็ตาม กรมสรรพสามิตได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงขึ้นมาอีกชุดหนึ่ง ซึ่งตามกฎหมายของกรมสรรพสามิตสามารถเรียกบุคคลภายนอกมาให้ข้อมูลได้ จึงเป็นสิ่งที่ดีที่มีกรรมการทำงานควบคู่กันสองคณะ

สำหรับข้อมูลที่ คณะกรรมการได้มาเป็นเพียงหลักฐานทางเอกสาร หลักฐานจากสื่อมวลชน และหลักฐานจากพยานบุคคล ซึ่งคาดว่าคณะกรรมการของกรมสรรพสามิตจะสรุปข้อเท็จจริงได้ทั้งหมดภายในสิ้น เดือน มี.ค.นี้ โดยจุดมุ่งหมายเพียงพิจาณาดูว่าซานติก้าผับต้องเสียภาษีหรือไม่ โดยยังไม่มีการพิจาณาไปถึงการปรับระบบการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตจากร้านอาหาร หรือผับเทคที่มีการจดทะเบียนในปัจจุบัน

ที่มา : สำนักข่าวไทย

คาดสรุปผลสอบ ซานติก้า เสียภาษีหรือไม่ภายในเดือนนี้

กระทรวงคลัง 3 มี.ค. - นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธ์ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานสอบข้อเท็จจริงกรณีปัญหาซานติก้าผับ กล่าวว่า จากคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนเรื่องดังกล่าวยังมีข้อจำกัด 2 ด้านคือ ระยะเวลา 15 วัน เป็นเวลาที่สั้นอาจทำได้ไม่ครอบคลุม อีกทั้งคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาไม่มีอำนาจเรียกบุคคลภายนอกมาให้ข้อมูลจึง เป็นอุปสรรคต่อการทำงานของคณะกรรมการฯ อย่างไรก็ตาม กรมสรรพสามิตได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงขึ้นมาอีกชุดหนึ่ง ซึ่งตามกฎหมายของกรมสรรพสามิตสามารถเรียกบุคคลภายนอกมาให้ข้อมูลได้ จึงเป็นสิ่งที่ดีที่มีกรรมการทำงานควบคู่กันสองคณะ

สำหรับข้อมูลที่ คณะกรรมการได้มาเป็นเพียงหลักฐานทางเอกสาร หลักฐานจากสื่อมวลชน และหลักฐานจากพยานบุคคล ซึ่งคาดว่าคณะกรรมการของกรมสรรพสามิตจะสรุปข้อเท็จจริงได้ทั้งหมดภายในสิ้น เดือน มี.ค.นี้ โดยจุดมุ่งหมายเพียงพิจาณาดูว่าซานติก้าผับต้องเสียภาษีหรือไม่ โดยยังไม่มีการพิจาณาไปถึงการปรับระบบการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตจากร้านอาหาร หรือผับเทคที่มีการจดทะเบียนในปัจจุบัน

ที่มา : สำนักข่าวไทย

สรรสามิตตั้งกก.สอบ'ซานติก้า'อีกชุด คาดได้ข้อสรุปสิ้น มี.ค.

วันนี้(3 มี.ค.) นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธ์ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานสอบข้อเท็จจริงกรณีปัญหาซานติก้าผับ เปิดเผยว่า กรณีที่นายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รมช.คลังสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนเรื่องดังกล่าวนั้น ยังมีข้อจำกัด 2 ด้านคือ ระยะเวลา 15 วัน ซึ่งเป็นเวลาที่สั้น การพิจารณาอาจทำได้ไม่ครอบคลุม อีกทั้งคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาไม่มีอำนาจเรียกบุคคลภายนอกมาให้ข้อมูล จึงเป็นอุปสรรคต่อการทำงาน ทั้งนี้ทราบว่ากรมสรรพสามิตได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงขึ้นมาอีกชุด หนึ่ง ซึ่งตามกฎหมายของกรมสรรพสามิตสามารถเรียกบุคคลภายนอกมาให้ข้อมูลได้ จึงเป็นสิ่งที่ดีที่มีกรรมการทำงานควบคู่กันสองคณะ

นายสถิตย์ กล่าวต่อว่า สำหรับข้อมูลที่คณะกรรมการฯ ได้มาเป็นเพียงหลักฐานทางเอกสาร หลักฐานจากสื่อมวลชน และหลักฐานจากพยานบุคคล ซึ่งคาดว่าคณะกรรมการของกรมสรรพสามิตจะสรุปข้อเท็จจริงได้ทั้งหมดภายในสิ้น เดือน มี.ค.นี้ โดยจุดมุ่งหมายเพียงพิจาณาดูว่าซานติก้าผับต้องเสียภาษีหรือไม่ ยังไม่พิจาณาไปถึงการปรับระบบการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตจากร้านอาหาร หรือผับเทคที่จดทะเบียนในปัจจุบัน.
from:www.dailynews.co.th

สรรสามิตตั้งกก.สอบ'ซานติก้า'อีกชุด คาดได้ข้อสรุปสิ้น มี.ค.

วันนี้(3 มี.ค.) นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธ์ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานสอบข้อเท็จจริงกรณีปัญหาซานติก้าผับ เปิดเผยว่า กรณีที่นายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รมช.คลังสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนเรื่องดังกล่าวนั้น ยังมีข้อจำกัด 2 ด้านคือ ระยะเวลา 15 วัน ซึ่งเป็นเวลาที่สั้น การพิจารณาอาจทำได้ไม่ครอบคลุม อีกทั้งคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาไม่มีอำนาจเรียกบุคคลภายนอกมาให้ข้อมูล จึงเป็นอุปสรรคต่อการทำงาน ทั้งนี้ทราบว่ากรมสรรพสามิตได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงขึ้นมาอีกชุด หนึ่ง ซึ่งตามกฎหมายของกรมสรรพสามิตสามารถเรียกบุคคลภายนอกมาให้ข้อมูลได้ จึงเป็นสิ่งที่ดีที่มีกรรมการทำงานควบคู่กันสองคณะ

นายสถิตย์ กล่าวต่อว่า สำหรับข้อมูลที่คณะกรรมการฯ ได้มาเป็นเพียงหลักฐานทางเอกสาร หลักฐานจากสื่อมวลชน และหลักฐานจากพยานบุคคล ซึ่งคาดว่าคณะกรรมการของกรมสรรพสามิตจะสรุปข้อเท็จจริงได้ทั้งหมดภายในสิ้น เดือน มี.ค.นี้ โดยจุดมุ่งหมายเพียงพิจาณาดูว่าซานติก้าผับต้องเสียภาษีหรือไม่ ยังไม่พิจาณาไปถึงการปรับระบบการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตจากร้านอาหาร หรือผับเทคที่จดทะเบียนในปัจจุบัน.
from:www.dailynews.co.th

ผลสอบซานติก้า 4 ขรก.กทม.-อดีตผอ.เขตวัฒนาผิด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (6 มี.ค.) คณะกรรมการสอบสวนคดีซานติก้าผับในส่วนของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ซึ่งมีนายชาตินัย เนาวภูต ผอ.สำนักการโยธา กทม. เป็นประธานได้สรุปผลการสอบสวนชี้มูลผู้กระทำความผิดพบว่า มีข้าราชการ กทม. กระทำความผิดและมีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด 5 คน แยกเป็นกลุ่มที่มีความผิดวินัยร้ายแรง 3 คน ได้แก่ หัวหน้าฝ่ายโยธา หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมอาคารและนายตรวจ ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในขณะนั้น ซึ่งคณะกรรมการฯ พบว่า มีการก่อสร้างไม่ตรงตามแบบที่ยื่นขออนุญาต และไม่มีการยื่นขอดัดแปลงอาคาร แต่เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องไม่ทราบ จึงสันนิษฐานได้ว่าไม่ได้เข้าไปตรวจสอบอาคาร

มีรายงานว่า ส่วนกลุ่มข้าราชการที่ถูกชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรงมี 2 คน คือ นายสุรเกียรติ ลิ้มเจริญ ผอ.เขตปทุมวันในฐานะอดีต ผอ.เขตวัฒนา และมีคำสั่งให้เข้ามาช่วยราชการในสำนักปลัด กทม. ซึ่งคณะกรรมการเห็นว่าจะต้องมีส่วนรับผิดชอบในฐานะผู้บังคับบัญชา แต่มีเจ้าหน้าที่กลั่นกรองงานจึงเห็นว่ากระทำโดยสุจริต แต่บกพร่องไม่กำกับดูแล และนายตรวจอีกคนที่เป็นผู้เบิกแบบแปลนอาคารซานติก้าไปใช้ในปี 2550 แต่ทำแบบหายและชี้แจงกรรมการว่า ไม่ได้นำแบบแปลนไปใช้ทำอะไร จึงถือว่ามีความบกพรอง

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า หลังจากคณะกรรมการสอบสวนคดีซานติก้าผับในส่วนของ กทม. จัดส่งผลสอบให้กับปลัด กทม. แล้ว กทม. จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาโทษความผิดข้าราชการทื้ง 5 คน อีกครั้งหนึ่ง


:

ผลสอบซานติก้า 4 ขรก.กทม.-อดีตผอ.เขตวัฒนาผิด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (6 มี.ค.) คณะกรรมการสอบสวนคดีซานติก้าผับในส่วนของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ซึ่งมีนายชาตินัย เนาวภูต ผอ.สำนักการโยธา กทม. เป็นประธานได้สรุปผลการสอบสวนชี้มูลผู้กระทำความผิดพบว่า มีข้าราชการ กทม. กระทำความผิดและมีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด 5 คน แยกเป็นกลุ่มที่มีความผิดวินัยร้ายแรง 3 คน ได้แก่ หัวหน้าฝ่ายโยธา หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมอาคารและนายตรวจ ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในขณะนั้น ซึ่งคณะกรรมการฯ พบว่า มีการก่อสร้างไม่ตรงตามแบบที่ยื่นขออนุญาต และไม่มีการยื่นขอดัดแปลงอาคาร แต่เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องไม่ทราบ จึงสันนิษฐานได้ว่าไม่ได้เข้าไปตรวจสอบอาคาร

มีรายงานว่า ส่วนกลุ่มข้าราชการที่ถูกชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรงมี 2 คน คือ นายสุรเกียรติ ลิ้มเจริญ ผอ.เขตปทุมวันในฐานะอดีต ผอ.เขตวัฒนา และมีคำสั่งให้เข้ามาช่วยราชการในสำนักปลัด กทม. ซึ่งคณะกรรมการเห็นว่าจะต้องมีส่วนรับผิดชอบในฐานะผู้บังคับบัญชา แต่มีเจ้าหน้าที่กลั่นกรองงานจึงเห็นว่ากระทำโดยสุจริต แต่บกพร่องไม่กำกับดูแล และนายตรวจอีกคนที่เป็นผู้เบิกแบบแปลนอาคารซานติก้าไปใช้ในปี 2550 แต่ทำแบบหายและชี้แจงกรรมการว่า ไม่ได้นำแบบแปลนไปใช้ทำอะไร จึงถือว่ามีความบกพรอง

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า หลังจากคณะกรรมการสอบสวนคดีซานติก้าผับในส่วนของ กทม. จัดส่งผลสอบให้กับปลัด กทม. แล้ว กทม. จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาโทษความผิดข้าราชการทื้ง 5 คน อีกครั้งหนึ่ง


:

ฟ้องซานติก้า คดีผู้บริโภค 7สำนวนรวมร้อยล้านบาท

ฟ้องซานติก้า คดีผู้บริโภค 7สำนวนรวมร้อยล้านบาทสภาทนายความ เผย ได้ให้ความช่วยเหลือในการยื่นฟ้อง ซานติ ก้า ผับ คดีแพ่งต่อสำนักคดีผู้บริโภคแล้วรวม 7 สำนวน รวมทุน ทรัพย์ทั้งสิ้น 105,705,005 บาท

ความ คืบหน้าการให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ผู้เสียหาย กรณีไฟไหม้ ซานติก้า ผับ เมื่อคืนวันที่ 1 ม.ค. 2552 ที่ สภาทนายความ วันนี้ (6 มี.ค.) นายเสงี่ยม บุญจันทร์ เลขาธิการและรองโฆษกสภาทนายความ กล่าวว่า หลังจากตรวจสอบข้อเท็จจริงจากผู้เสียหายเข้าร้องขอความช่วยเหลือต่อสภาทนาย ความแล้ว สภาทนายความได้ให้ความช่วยเหลือในการยื่นฟ้องคดีแพ่งต่อสำนักคดีผู้บริโภค แล้วรวม 7 สำนวน รวมทุนทรัพย์ทั้งสิ้น 105,705,005 บาท ประกอบด้วย สำนวนที่ 1 นายอภิศักดิ์ เมฆทิพย์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บริษัทไวท์ แอนด์ บราเธอร์ส (2003)จำกัด กับพวกรวม 33 คนเป็นจำเลยต่อศาลแพ่ง เรื่องละเมิดเรียกค่าเสียหาย กรณีมีการเสียชีวิต จำนวนทุนทรัพย์ 19,880,000 บาท ศาลรับฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำที่ ผบ.754/2552 , คดีที่ 2 นางประสงค์ ทำกันหา ,นายจุนอิชิโร ซูซูกิ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บจก.ไวท์ฯ กับพวกรวม 33 คน เป็นจำเลยเรื่องละเมิดเรียกค่าเสียหายกรณีเสียชีวิต จำนวนทุนทรัพย์ 20,900,000 บาท ศาลรับฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำที่ ผบ.755/2552 , คดีที่ 3 นายอวยชัย และนางธัญญารัตน์ หรือเนตรดาว อมรรัตนโชติ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บจก.ไวท์ฯ กับพวกรวม 33 คน เป็นจำเลยเรื่องละเมิดเรียกค่าเสียหายกรณีเสียชีวิต จำนวนทุนทรัพย์ 28,700,000 บาท ศาลรับฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำที่ ผบ.756/2552 ซึ่งสำนวนคดีที่ 1-3 ศาลแพ่งนัดสืบพยานโจทก์ในวันที่ 30 มี.ค.นี้ เวลา 09.00 น.

เลขาธิการและรองโฆษกสภาทนายความ กล่าวว่า ส่วนคดีที่ 4 นางวันเพ็ญ พัฒนผล เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บจก.ไวท์ฯ กับพวกรวม 33 คน เป็นจำเลยเรื่องละเมิดเรียกค่าเสียหายกรณีบาดเจ็บ จำนวนทุนทรัพย์ 7,695,622 บาท ศาลรับฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำที่ ผบ.818/2552 , คดีที่ 5 นางชลอ น่วมเจริญ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บจก.ไวท์ฯ กับพวกรวม 33 คน เป็นจำเลยเรื่องละเมิดเรียกค่าเสียหายกรณีเสียชีวิต จำนวนทุนทรัพย์ 10,740,000 บาท ศาลรับฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำที่ ผบ.819/2552 , คดีที่ 6 นายศักดิ์ ปัญญาทิพย์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บจก.ไวท์ฯ กับพวกรวม 33 คน เป็นจำเลยเรื่องละเมิดเรียกค่าเสียหายกรณีเสียชีวิต จำนวนทุนทรัพย์ 8,900,000 บาท ศาลรับฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำที่ ผบ.820/2552 และสำนวนที่ 7 นางฉวีวรรณ วงษ์ทวี โจทก์ยื่นฟ้อง บจก.ไวท์ฯ กับพวกรวม 33 คน เป็นจำเลยเรื่องละเมิดเรียกค่าเสียหายกรณีเสียชีวิต จำนวนทุนทรัพย์ 8,889,383 บาท ซึ่งศาลรับฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำที่ ผบ.821/2552 ในส่วนคดีที่ 4 และ5 ศาลแพ่งนัดไกล่เกลี่ยคู่ความในวันที่ 30 มี.ค. 52 เวลา 09.00 น. ขณะที่คดีที่ 6 และ 7 ศาลนัดไกล่เกลี่ยในวันเดียวกันเวลา 13.30 น.

ฟ้องซานติก้า คดีผู้บริโภค 7สำนวนรวมร้อยล้านบาท

ฟ้องซานติก้า คดีผู้บริโภค 7สำนวนรวมร้อยล้านบาทสภาทนายความ เผย ได้ให้ความช่วยเหลือในการยื่นฟ้อง ซานติ ก้า ผับ คดีแพ่งต่อสำนักคดีผู้บริโภคแล้วรวม 7 สำนวน รวมทุน ทรัพย์ทั้งสิ้น 105,705,005 บาท

ความ คืบหน้าการให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ผู้เสียหาย กรณีไฟไหม้ ซานติก้า ผับ เมื่อคืนวันที่ 1 ม.ค. 2552 ที่ สภาทนายความ วันนี้ (6 มี.ค.) นายเสงี่ยม บุญจันทร์ เลขาธิการและรองโฆษกสภาทนายความ กล่าวว่า หลังจากตรวจสอบข้อเท็จจริงจากผู้เสียหายเข้าร้องขอความช่วยเหลือต่อสภาทนาย ความแล้ว สภาทนายความได้ให้ความช่วยเหลือในการยื่นฟ้องคดีแพ่งต่อสำนักคดีผู้บริโภค แล้วรวม 7 สำนวน รวมทุนทรัพย์ทั้งสิ้น 105,705,005 บาท ประกอบด้วย สำนวนที่ 1 นายอภิศักดิ์ เมฆทิพย์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บริษัทไวท์ แอนด์ บราเธอร์ส (2003)จำกัด กับพวกรวม 33 คนเป็นจำเลยต่อศาลแพ่ง เรื่องละเมิดเรียกค่าเสียหาย กรณีมีการเสียชีวิต จำนวนทุนทรัพย์ 19,880,000 บาท ศาลรับฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำที่ ผบ.754/2552 , คดีที่ 2 นางประสงค์ ทำกันหา ,นายจุนอิชิโร ซูซูกิ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บจก.ไวท์ฯ กับพวกรวม 33 คน เป็นจำเลยเรื่องละเมิดเรียกค่าเสียหายกรณีเสียชีวิต จำนวนทุนทรัพย์ 20,900,000 บาท ศาลรับฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำที่ ผบ.755/2552 , คดีที่ 3 นายอวยชัย และนางธัญญารัตน์ หรือเนตรดาว อมรรัตนโชติ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บจก.ไวท์ฯ กับพวกรวม 33 คน เป็นจำเลยเรื่องละเมิดเรียกค่าเสียหายกรณีเสียชีวิต จำนวนทุนทรัพย์ 28,700,000 บาท ศาลรับฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำที่ ผบ.756/2552 ซึ่งสำนวนคดีที่ 1-3 ศาลแพ่งนัดสืบพยานโจทก์ในวันที่ 30 มี.ค.นี้ เวลา 09.00 น.

เลขาธิการและรองโฆษกสภาทนายความ กล่าวว่า ส่วนคดีที่ 4 นางวันเพ็ญ พัฒนผล เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บจก.ไวท์ฯ กับพวกรวม 33 คน เป็นจำเลยเรื่องละเมิดเรียกค่าเสียหายกรณีบาดเจ็บ จำนวนทุนทรัพย์ 7,695,622 บาท ศาลรับฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำที่ ผบ.818/2552 , คดีที่ 5 นางชลอ น่วมเจริญ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บจก.ไวท์ฯ กับพวกรวม 33 คน เป็นจำเลยเรื่องละเมิดเรียกค่าเสียหายกรณีเสียชีวิต จำนวนทุนทรัพย์ 10,740,000 บาท ศาลรับฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำที่ ผบ.819/2552 , คดีที่ 6 นายศักดิ์ ปัญญาทิพย์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บจก.ไวท์ฯ กับพวกรวม 33 คน เป็นจำเลยเรื่องละเมิดเรียกค่าเสียหายกรณีเสียชีวิต จำนวนทุนทรัพย์ 8,900,000 บาท ศาลรับฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำที่ ผบ.820/2552 และสำนวนที่ 7 นางฉวีวรรณ วงษ์ทวี โจทก์ยื่นฟ้อง บจก.ไวท์ฯ กับพวกรวม 33 คน เป็นจำเลยเรื่องละเมิดเรียกค่าเสียหายกรณีเสียชีวิต จำนวนทุนทรัพย์ 8,889,383 บาท ซึ่งศาลรับฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำที่ ผบ.821/2552 ในส่วนคดีที่ 4 และ5 ศาลแพ่งนัดไกล่เกลี่ยคู่ความในวันที่ 30 มี.ค. 52 เวลา 09.00 น. ขณะที่คดีที่ 6 และ 7 ศาลนัดไกล่เกลี่ยในวันเดียวกันเวลา 13.30 น.

กทม.ตั้ง กก.สอบวินัยร้ายแรงนายตรวจอาคาร-หน.โยธาเขต เซ่นซานติก้า

นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกรุงเทพมหานคร แถลงผลสอบสวนข้อเท็จจริงอาคารซานติก้า ผับ ของกรุงเทพมหานคร ชุดที่มีนายชาตินัย เนาวภูต ผู้อำนวยการสำนักการโยธา เป็นประธาน โดยมีความเห็นตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง 3 คน ประกอบด้วย นายตรวจอาคาร หัวหน้ากลุ่มงานอาคาร และหัวหน้าฝ่ายโยธาเขตในขณะนั้น ฐานปกป้องในการปฏิบัติหน้าที่ และเสนอตั้งคณะกรรมการสอบวินัยไม่ร้ายแรง 2 คน ประกอบด้วย ผู้อำนวยการเขตวัฒนา ซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ในขณะนั้น และเจ้าหน้าที่ฝ่ายโยธาเขต
ส่วนการชำระภาษีโรงเรียน และภาษีที่ดินนั้น ทางบริษัทเจ้าของอาคารซานติก้า ผับ ได้เข้าดำเนินการชำระแล้ว แม้จะล่าช้า ทั้งนี้ต้องส่งเรื่องให้กองการเจ้าหน้าที่ เพื่อตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย ต่อไป
สำหรับโทษทางวินัยร้ายแรง ประกอบด้วย การปลดออกและไล่ออก ส่วนโทษทางวินัยไม่ร้ายแรง มีทั้งการตัดเงินเดือน และลดขั้น

กทม.ตั้ง กก.สอบวินัยร้ายแรงนายตรวจอาคาร-หน.โยธาเขต เซ่นซานติก้า

นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกรุงเทพมหานคร แถลงผลสอบสวนข้อเท็จจริงอาคารซานติก้า ผับ ของกรุงเทพมหานคร ชุดที่มีนายชาตินัย เนาวภูต ผู้อำนวยการสำนักการโยธา เป็นประธาน โดยมีความเห็นตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง 3 คน ประกอบด้วย นายตรวจอาคาร หัวหน้ากลุ่มงานอาคาร และหัวหน้าฝ่ายโยธาเขตในขณะนั้น ฐานปกป้องในการปฏิบัติหน้าที่ และเสนอตั้งคณะกรรมการสอบวินัยไม่ร้ายแรง 2 คน ประกอบด้วย ผู้อำนวยการเขตวัฒนา ซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ในขณะนั้น และเจ้าหน้าที่ฝ่ายโยธาเขต
ส่วนการชำระภาษีโรงเรียน และภาษีที่ดินนั้น ทางบริษัทเจ้าของอาคารซานติก้า ผับ ได้เข้าดำเนินการชำระแล้ว แม้จะล่าช้า ทั้งนี้ต้องส่งเรื่องให้กองการเจ้าหน้าที่ เพื่อตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย ต่อไป
สำหรับโทษทางวินัยร้ายแรง ประกอบด้วย การปลดออกและไล่ออก ส่วนโทษทางวินัยไม่ร้ายแรง มีทั้งการตัดเงินเดือน และลดขั้น